วิธีเปิดเซิฟเวอร์ V-Rising ด้วยตัวเอง ฉบับเข้าใจง่าย 2025

วิธีเปิดเซิฟเวอร์ V-Rising ด้วยตัวเอง ฉบับเข้าใจง่าย 2025

อยากเปิดเซิฟเวอร์เกม V-Rising ในปี 2025 แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง? บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกขั้นตอนการเปิดเซิฟเวอร์ V-Rising ล่าสุด แบบละเอียดทุกแง่มุม ไม่ว่าคุณจะมีพื้นฐานด้านเซิฟเวอร์มาก่อนหรือไม่ก็ตาม

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ V-Rising

1.1 ประวัติและความนิยมของเกม V-Rising

V-Rising คือเกมแนวเอาชีวิตรอดในโลกแฟนตาซีแวมไพร์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2025 เนื่องจากการอัพเดทเนื้อหาใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้เล่นจำนวนมากสนใจเปิดเซิฟเวอร์ส่วนตัวเพื่อสร้างกฎเกณฑ์การเล่นแบบที่ตนเองต้องการ

1.2 ทำไมต้องเปิดเซิฟเวอร์ส่วนตัว

การเปิดเซิฟเวอร์ V-Rising ของคุณเองมีข้อดีหลายประการ:

  • ควบคุมกฎการเล่น – ปรับแต่งทุกอย่างได้ตามใจชอบ
  • เล่นกับเพื่อนๆ – สร้างชุมชนของคุณเอง
  • ความเสถียร – ไม่ต้องกังวลกับเซิฟเวอร์ล่ม
  • ปรับแต่งประสบการณ์ – เพิ่มม็อดหรือเปลี่ยนการตั้งค่าเกมได้ตามต้องการ

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเปิดเซิฟเวอร์

2.1 ความต้องการของระบบในการเปิดเซิฟเวอร์

สำหรับเซิฟเวอร์ V-Rising ที่รองรับผู้เล่น 10-20 คน คุณจำเป็นต้องมี:

ความต้องการขั้นต่ำ:

  • CPU: 4 คอร์ที่ความเร็ว 3.0 GHz หรือดีกว่า
  • RAM: อย่างน้อย 8GB (แนะนำ 16GB)
  • พื้นที่เก็บข้อมูล: 30GB SSD
  • อินเทอร์เน็ต: ความเร็วอัปโหลดอย่างน้อย 10 Mbps
  • ระบบปฏิบัติการ: Windows 10/11 หรือ Linux

2.2 การเลือกฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสม

คุณมีทางเลือก 2 แบบในการเปิดเซิฟเวอร์:

  1. ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนตัว – เหมาะสำหรับเซิฟเวอร์ขนาดเล็กที่มีเพื่อนเล่นไม่เกิน 5-10 คน
  2. เช่าเซิฟเวอร์เกมโดยเฉพาะ – แนะนำสำหรับการเล่นระยะยาวและมีผู้เล่นจำนวนมาก

2.3 ความรู้เกี่ยวกับเครือข่ายและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

การเปิดเซิฟเวอร์บนเครื่องส่วนตัวจำเป็นต้องเข้าใจเรื่อง:

  • Port Forwarding – การเปิดพอร์ตบนเราเตอร์ (V-Rising ใช้พอร์ต 9876-9877 เป็นหลัก)
  • IP แบบคงที่ – ควรตั้งค่า IP ภายในให้คงที่หรือใช้ DDNS หากไม่มี IP แบบคงที่จากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
  • ไฟร์วอลล์ – ตรวจสอบว่าอนุญาตการเชื่อมต่อของเกม

ขั้นตอนการเปิดเซิฟเวอร์ V-Rising

3.1 การติดตั้งเกม V-Rising ตัวเซิฟเวอร์

3.1.1 ดาวน์โหลดและติดตั้ง

  1. เปิด Steam และล็อกอินเข้าบัญชีของคุณ
  2. ค้นหา “V Rising Dedicated Server” ในร้านค้า
  3. ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันเซิฟเวอร์ (เป็นแอปฟรีที่แยกจากตัวเกมหลัก)
  4. รอจนการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์

3.1.2 การตั้งค่าต่างๆ

หลังติดตั้งเสร็จ คุณจะพบไฟล์ตั้งค่าสำคัญดังนี้:

  • ServerHostSettings.json – สำหรับตั้งค่าชื่อเซิฟเวอร์ รหัสผ่าน และการเชื่อมต่อ
  • ServerGameSettings.json – สำหรับปรับแต่งกฎเกมและการเล่น
  • AdminList.txt – เพื่อกำหนดผู้เล่นที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ

3.2 การตั้งค่าเซิฟเวอร์

3.2.1 การสร้างโฟลเดอร์สำหรับเซิฟเวอร์

  1. ไปที่โฟลเดอร์ที่ติดตั้งเซิฟเวอร์ V-Rising (โดยปกติจะอยู่ที่ C:\Program Files (x86)\Steam\steamapps\common\VRisingDedicatedServer)
  2. เข้าไปที่โฟลเดอร์ VRisingServer_Data\StreamingAssets\Settings
  3. สำรองไฟล์การตั้งค่าเดิมไว้ก่อนแก้ไข

3.2.2 การกำหนดค่าไฟล์เซิฟเวอร์

เปิดไฟล์ ServerHostSettings.json ด้วยโปรแกรมแก้ไขข้อความและแก้ไขการตั้งค่าดังนี้:

{
"Name": "ชื่อเซิฟเวอร์ของคุณ",
"Description": "คำอธิบายเซิฟเวอร์ของคุณ",
"Port": 9876,
"QueryPort": 9877,
"MaxConnectedUsers": 16,
"MaxConnectedAdmins": 4,
"ServerFps": 30,
"SaveName": "world1",
"Password": "รหัสผ่านของคุณ",
"Secure": true,
"ListOnMasterServer": true,
"AutoSaveCount": 50,
"AutoSaveInterval": 600,
"GameSettingsPreset": "StandardPvP"
}

จากนั้นแก้ไขไฟล์ ServerGameSettings.json เพื่อปรับแต่งการเล่นเกม เช่น:

{
"GameModeType": "PvP",
"CastleDamageMode": "Always",
"SiegeWeaponHealth": 1.0,
"PlayerDamageMode": "Always",
"CastleHeartDamageMode": "Always",
"PvPProtectionMode": "Medium",
"DeathContainerPermission": "Anyone",
"RelicSpawnType": "Unique",
"CanLootEnemyContainers": true,
"BloodBoundEquipment": true,
"TeleportBoundItems": true,
"InventoryStacksModifier": 1.0,
"DropTableModifier_General": 1.0,
"DropTableModifier_Missions": 1.0,
"MaterialYieldModifier_Global": 1.5,
"BloodEssenceYieldModifier": 1.0,
"JournalVBloodSourceUnitMaxDistance": 25.0,
"PvPVampireRespawnModifier": 1.0,
"CastleMinimumDistanceInFloors": 3,
"ClanSize": 4,
"BloodDrainModifier": 1.0,
"DurabilityDrainModifier": 0.5,
"GarlicAreaStrengthModifier": 1.0,
"HolyAreaStrengthModifier": 1.0,
"SilverStrengthModifier": 1.0,
"SunDamageModifier": 1.0,
"CastleDecayRateModifier": 1.0,
"CastleBloodEssenceDrainModifier": 1.0,
"ServantConvertRateModifier": 1.0
}

3.3 การเปิดเซิฟเวอร์

3.3.1 ขั้นตอนการเริ่มต้นเซิฟเวอร์

  1. เปิดไฟล์ VRisingServer.exe ในโฟลเดอร์ที่ติดตั้ง
  2. หน้าต่างคอนโซลจะปรากฏขึ้นแสดงข้อความการเริ่มต้นเซิฟเวอร์
  3. รอจนกระทั่งข้อความ “Server is ready for connections” ปรากฏ

3.3.2 การตรวจสอบการทำงานของเซิฟเวอร์

  1. เปิดเกม V-Rising บนเครื่องของคุณ
  2. เลือก “Play” > “Online Play” > “Direct Connect”
  3. ใส่ IP ของเซิฟเวอร์ (ถ้าเปิดบนเครื่องเดียวกันให้ใส่ 127.0.0.1)
  4. ใส่รหัสผ่านที่คุณตั้งไว้และกดเชื่อมต่อ
  5. หากเชื่อมต่อได้แสดงว่าเซิฟเวอร์ทำงานปกติ

การจัดการและดูแลเซิฟเวอร์

4.1 การตรวจสอบสถานะเซิฟเวอร์

คุณสามารถตรวจสอบสถานะของเซิฟเวอร์ได้โดย:

  • ดูจากหน้าต่างคอนโซลของเซิฟเวอร์
  • ตรวจสอบจำนวนผู้เล่นและสถานะในหน้าต่างคอนโซล
  • ใช้เครื่องมือตรวจสอบเครือข่ายเพื่อยืนยันว่าพอร์ตเปิดอยู่

4.2 การจัดการผู้เล่น

การเพิ่มผู้ดูแลระบบทำได้โดย:

  1. เปิดไฟล์ AdminList.txt ในโฟลเดอร์ VRisingServer_Data\StreamingAssets\Settings
  2. เพิ่ม SteamID ของผู้เล่นที่ต้องการให้เป็นแอดมิน (แต่ละ ID คั่นด้วยบรรทัดใหม่)
  3. บันทึกไฟล์และรีสตาร์ทเซิฟเวอร์

คำสั่งแอดมินที่มีประโยชน์:

  • /ban [SteamID] – แบนผู้เล่น
  • /kick [ชื่อผู้เล่น] – เตะผู้เล่นออกจากเซิฟเวอร์
  • /announce [ข้อความ] – ประกาศข้อความไปยังทุกคนในเซิฟเวอร์

4.3 การทำสำรองข้อมูล

การสำรองข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อป้องกันการสูญเสียความก้าวหน้าในเกม:

  1. หยุดเซิฟเวอร์ก่อนทำการสำรองข้อมูล
  2. คัดลอกโฟลเดอร์ SaveData ที่อยู่ใน VRisingServer_Data\StreamingAssets
  3. เก็บไฟล์สำรองไว้ในที่ปลอดภัย เช่น ฮาร์ดไดรฟ์ภายนอกหรือคลาวด์สตอเรจ
  4. ควรตั้งเวลาสำรองข้อมูลอัตโนมัติทุก 24 ชั่วโมง

เคล็ดลับ: ใช้สคริปต์หรือโปรแกรมสำรองข้อมูลอัตโนมัติเพื่อความสะดวก

การแนะนำการเชิญชวนผู้เล่นมาร่วมเซิฟเวอร์

5.1 สร้างชุมชนออนไลน์

การสร้างชุมชนที่แข็งแกร่งจะทำให้เซิฟเวอร์ของคุณมีผู้เล่นสม่ำเสมอ:

  • สร้างกลุ่ม Discord สำหรับผู้เล่นในเซิฟเวอร์
  • ตั้งกฎและแนวทางในการเล่นที่ชัดเจน
  • จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อให้ผู้เล่นมีส่วนร่วม เช่น การล่า Boss พิเศษ หรือการแข่งขัน PvP

5.2 การโปรโมทเซิฟเวอร์ในช่องทางต่างๆ

เผยแพร่เซิฟเวอร์ของคุณผ่านช่องทางต่างๆ:

  • โพสต์ในฟอรั่ม V-Rising ทางการ
  • แชร์ในกลุ่ม Facebook หรือ Reddit ที่เกี่ยวข้องกับเกม
  • สร้างเนื้อหาบน YouTube หรือ Twitch เพื่อดึงดูดผู้เล่นใหม่
  • ใช้เว็บไซต์ลงทะเบียนเซิฟเวอร์เกม เช่น Battlemetrics

ข้อควรระวังและปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

6.1 ปัญหาทั่วไปที่อาจพบเจอ

ปัญหาที่พบบ่อยและวิธีรับมือ:

  1. เซิฟเวอร์ไม่ปรากฏในรายการ – ตรวจสอบการตั้งค่า ListOnMasterServer ว่าเป็น “true”
  2. ผู้เล่นไม่สามารถเชื่อมต่อได้ – ตรวจสอบการตั้งค่า Port Forwarding และไฟร์วอลล์
  3. เซิฟเวอร์ค้าง/แลค – อาจต้องเพิ่ม RAM หรือลดจำนวนผู้เล่นสูงสุด
  4. ไฟล์เซฟเสียหาย – กู้คืนจากไฟล์สำรองล่าสุด

6.2 วิธีการแก้ไขเบื้องต้น

การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น:

  • รีสตาร์ทเซิฟเวอร์เป็นประจำ (อย่างน้อยวันละครั้ง)
  • ตรวจสอบล็อกไฟล์ในโฟลเดอร์ Logs เพื่อหาสาเหตุของปัญหา
  • อัพเดทเซิฟเวอร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ
  • ตรวจสอบการใช้งานทรัพยากรเครื่อง (CPU, RAM) ขณะรันเซิฟเวอร์

สรุป

7.1 ข้อดีและข้อเสียของการเปิดเซิฟเวอร์ส่วนตัว

ข้อดี:

  • ควบคุมกฎการเล่นได้อย่างเต็มที่
  • สร้างชุมชนที่มีความสนใจเดียวกัน
  • ปรับแต่งเกมตามความต้องการได้

ข้อเสีย:

  • มีค่าใช้จ่ายในการดูแลเซิฟเวอร์
  • ต้องใช้เวลาในการบำรุงรักษา
  • อาจมีปัญหาทางเทคนิคที่ต้องแก้ไข

7.2 แนวทางสำหรับการพัฒนาเซิฟเวอร์ในอนาคต

เมื่อเซิฟเวอร์ของคุณเติบโตขึ้น คุณอาจต้องพิจารณา:

  • อัพเกรดฮาร์ดแวร์หรือแพ็กเกจโฮสติ้ง
  • เพิ่มม็อดหรือปลั๊กอินเพื่อเพิ่มฟีเจอร์
  • สร้างระบบจัดการผู้เล่นที่ซับซ้อนขึ้น
  • พัฒนาเว็บไซต์หรือแอปสำหรับชุมชนของคุณ

การเปิดเซิฟเวอร์ V-Rising เป็นประสบการณ์ที่ให้ทั้งความสนุกและความท้าทาย การเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เซิฟเวอร์ของคุณประสบความสำเร็จในระยะยาว!

อย่ารอช้า! เริ่มต้นสร้างจักรวาลแวมไพร์ของคุณเองวันนี้ด้วยการเปิดเซิฟเวอร์ V-Rising ส่วนตัว และแบ่งปันประสบการณ์สุดพิเศษนี้กับเพื่อนๆ ของคุณ!