Windows Server 2025-2026: อัพเดทล่าสุด ที่ผู้ใช้ VPS และ Cloud ต้องรู้!
กำลังมองหาข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ Windows Server สำหรับปี 2025-2026 หรือไม่? Microsoft กำลังเตรียมปรับโฉมระบบเซิร์ฟเวอร์ครั้งใหญ่ที่จะเปลี่ยนวิธีการจัดการ VPS และ Cloud ของคุณไปอย่างสิ้นเชิง มาดูกันว่าการอัพเดทครั้งสำคัญนี้จะมอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยใหม่ๆ อะไรบ้าง
ความสำคัญของ Windows Server 2025
แนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีเซิร์ฟเวอร์
Windows Server 2025 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2024 โดยมาพร้อมกับ Long-Term Servicing Channel (LTSC) ที่จะได้รับการอัปเดตและซัพพอร์ตยาวนานถึง 10 ปี หรือจนถึงปี 2034 ซึ่งตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการความเสถียรและวางแผนระยะยาว
การเปลี่ยนแปลงในตลาดเซิร์ฟเวอร์
การอัพเดทครั้งนี้เน้นการรองรับ Hybrid Cloud และการทำงานร่วมกับ Azure Arc ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการเซิร์ฟเวอร์ทั้ง on-premises และในคลาวด์ได้จากศูนย์กลางเดียว
อัพเดทฟีเจอร์ใหม่ใน Windows Server 2025
ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย
Windows Server 2025 มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งกว่าเดิม:
• Credential Guard เปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้นเพื่อป้องกันการขโมยข้อมูลรับรอง
• Windows Local Administrator Password Solution (LAPS) สร้างรหัสผ่านที่ไม่ซ้ำกันและอัปเดตอัตโนมัติ
• การปรับปรุง Active Directory ที่รองรับขนาดฐานข้อมูล 32k page
• SMB over QUIC ป้องกันการโจมตีแบบ brute force, man-in-the-middle, relay และ spoofing
การสนับสนุนการทำงานใน Cloud
การผสานการทำงานกับ Azure Arc ทำให้คุณสามารถ:
- จัดการเซิร์ฟเวอร์แบบรวมศูนย์
- อัปเดตเซิร์ฟเวอร์ทั้ง on-premises และคลาวด์พร้อมกัน
- เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม Cloud อื่นๆ ได้อย่างราบรื่น
การจัดการระบบและการดูแลรักษาที่ง่ายขึ้น
• DTrace สำหรับการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์
• Windows Admin Center ใหม่ที่ใช้งานง่ายขึ้น
• การอัปเกรด in-place จาก Windows Server 2012 R2 ได้สูงสุด 4 เวอร์ชันในครั้งเดียว
การรองรับ Virtual Private Server (VPS)
ประโยชน์ของการใช้ Windows Server ใน VPS
GPU Partitioning และ GPU Live Migration เป็นฟีเจอร์เด่นที่ช่วยให้:
- ใช้ GPU ร่วมกันในหลาย Virtual Machine (VM)
- ย้าย VM ที่ใช้ GPU โดยไม่ต้องปิดเครื่อง
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ VPS อย่างเห็นได้ชัด
การปรับปรุงประสิทธิภาพของ VPS ในปี 2025-2026
การปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูล NVMe ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นถึง 60% เมื่อเทียบกับ Windows Server 2022 และรองรับ Block cloning บนระบบไฟล์ ReFS
การพัฒนาในด้าน Cloud Computing
การเข้าถึงการบริการ Cloud จาก Windows Server
SMB over QUIC ทำให้สามารถเข้าถึงไฟล์ที่แชร์ผ่านอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องใช้ VPN ซึ่งเป็นการปฏิวัติวิธีการทำงานกับ Cloud Storage
การรวมการทำงานระหว่าง Windows Server กับแพลตฟอร์ม Cloud อื่นๆ
Windows Server 2025 รองรับการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม Cloud หลากหลาย ทำให้ผู้ใช้มีความยืดหยุ่นในการเลือกใช้บริการที่เหมาะสมที่สุด
แนวโน้มในอนาคตของ Windows Server
ความก้าวหน้าในเทคโนโลยี AI และ Automation
การรองรับ GPU Partitioning เตรียมความพร้อมสำหรับการใช้งาน AI และ Machine Learning ในระดับเซิร์ฟเวอร์ พร้อมทั้งระบบ Automation ที่ช่วยลดภาระงานของผู้ดูแลระบบ
แนวโน้มการใช้งานเซิร์ฟเวอร์ในธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดกลาง
ด้วยการรองรับ Bluetooth, Wi-Fi, และ Windows Terminal รวมถึงดีไซน์ใหม่จาก Windows 11 ทำให้ Windows Server 2025 เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับธุรกิจทุกขนาด
สรุปและคำแนะนำสำหรับผู้ใช้งาน Windows Server
ข้อควรพิจารณาสำหรับการอัพเกรด
หากคุณกำลังใช้งาน VPS หรือ Cloud Server อยู่ การอัพเกรดเป็น Windows Server 2025 จะให้ประโยชน์ดังนี้:
• ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งกว่าเดิม
• ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น 60%
• การจัดการที่ง่ายและสะดวกขึ้น
• การสนับสนุนระยะยาว 10 ปี
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการเรียนรู้เกี่ยวกับ Windows Server
การอัปเดตผ่าน Windows Update ได้โดยตรง ทำให้การดูแลรักษาระบบง่ายขึ้น และไม่มีปัญหาสำคัญที่รายงานในขณะนี้
Windows Server 2025 พร้อมใช้งานแล้วทั้งบนเซิร์ฟเวอร์แบบดั้งเดิมและคลาวด์ อย่าพลาดโอกาสในการอัพเกรดระบบของคุณเพื่อรับประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ดีที่สุด! เริ่มวางแผนการอัพเกรด VPS และ Cloud Server ของคุณวันนี้
เรียบเรียงโดย JVH.CO.TH


![[ ช่องทางการชำระ ]](https://jvh.co.th/wp-content/uploads/2024/09/secure-stripe-payment.png)
