9 AI สร้างภาพอัจฉริยะ (2024) ที่นักออกแบบต้องลอง!

คุณกำลังมองหา AI สร้างภาพล่าสุดที่จะยกระดับงานออกแบบของคุณให้ไปอีกขั้น? บทความนี้รวบรวม AI ที่สามารถสร้างภาพได้ล่าสุด พร้อมฟีเจอร์ที่จะช่วยให้คุณประหยัดเวลา เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ และสร้างผลงานที่โดดเด่นได้ในไม่กี่นาที!

ทำไมนักออกแบบยุคใหม่ต้องใช้ AI สร้างภาพ?

ก่อนที่จะเจาะลึกถึงเครื่องมือแต่ละตัว มาดูกันว่าทำไม AI สร้างภาพจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักออกแบบยุคใหม่:

• ประหยัดเวลามหาศาล – งานที่เคยใช้เวลาหลายชั่วโมงสามารถเสร็จได้ในไม่กี่นาที
• แก้ปัญหา “ไอเดียติดขัด” – ช่วยสร้างแรงบันดาลใจเมื่อคุณรู้สึกหมดไอเดีย
• ลดต้นทุนการจ้าง – ไม่จำเป็นต้องจ้างช่างภาพหรือนักวาดภาพประกอบในทุกโปรเจค
• ทดลองแนวคิดได้ไม่จำกัด – ลองสไตล์หรือคอนเซปต์ใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

9 AI สร้างภาพล่าสุดที่นักออกแบบต้องลอง

1. Midjourney – ราชาแห่ง AI สร้างภาพศิลปะ

ฟีเจอร์เด่น:

• สร้างภาพที่มีความสวยงามทางศิลปะสูง
• รองรับการกำหนดสไตล์ที่หลากหลาย
• อัปเดตเวอร์ชันใหม่ล่าสุดมีความสมจริงน่าทึ่ง

วิธีการใช้งาน:
ใช้งานผ่าน Discord โดยพิมพ์คำสั่ง “/imagine” ตามด้วยคำอธิบายภาพที่ต้องการ สามารถระบุสไตล์ อารมณ์ และรายละเอียดเทคนิคได้

2. DALL-E 3 – ความแม่นยำสูงจาก OpenAI

ฟีเจอร์เด่น:

• เข้าใจคำอธิบายภาพซับซ้อนได้ดีเยี่ยม
• สร้างภาพสมจริงที่มีรายละเอียดครบถ้วน
• เชื่อมต่อกับ ChatGPT ได้โดยตรง

วิธีการใช้งาน:
เข้าถึงได้ผ่าน ChatGPT Plus หรือ API โดยตรง พิมพ์คำอธิบายภาพที่ต้องการอย่างละเอียด

3. Stable Diffusion – เปิดกว้างและปรับแต่งได้สูง

ฟีเจอร์เด่น:

• Open-source สามารถติดตั้งใช้งานบนเครื่องส่วนตัวได้
• ปรับแต่งโมเดลได้ตามความต้องการ
• มี Community models มากมายให้เลือกใช้

วิธีการใช้งาน:
ใช้งานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง DreamStudio หรือติดตั้งบนเครื่องผ่าน Stable Diffusion WebUI

4. Leonardo AI – ออกแบบเพื่อนักสร้างสรรค์

ฟีเจอร์เด่น:

• ฟีเจอร์ Canvas ที่ช่วยให้วาดภาพร่างแล้ว AI เติมเต็ม
• สร้างโมเดลเฉพาะทางได้
• คุณภาพสูงแม้ในแผนฟรี

วิธีการใช้งาน:
สมัครสมาชิกที่เว็บไซต์ Leonardo.ai แล้วเริ่มใช้งานผ่านอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย

5. Firefly – โซลูชั่นครบวงจรจาก Adobe

ฟีเจอร์เด่น:

• ผสานรวมกับซอฟต์แวร์ Adobe อื่นๆ ได้ไร้รอยต่อ
• ออกแบบมาเพื่อนักสร้างสรรค์มืออาชีพโดยเฉพาะ
• มีเครื่องมือแก้ไขภาพขั้นสูง

วิธีการใช้งาน:
ใช้งานผ่าน Adobe Creative Cloud สามารถเริ่มต้นด้วยการทดลองใช้ฟรี

6. Runway Gen-2 – ผู้นำด้านการสร้างวิดีโอและแอนิเมชัน

ฟีเจอร์เด่น:

• สร้างได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ
• เปลี่ยนภาพนิ่งให้เป็นวิดีโอเคลื่อนไหว
• เครื่องมือตัดต่อที่ใช้งานง่าย

วิธีการใช้งาน:
สมัครสมาชิกที่เว็บไซต์ Runway ML และเริ่มสร้างงานผ่านอินเตอร์เฟซเว็บ

7. Bing Image Creator – ทางเลือกฟรีที่มีคุณภาพ

ฟีเจอร์เด่น:

• ใช้งานฟรี
• ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี DALL-E
• ผลลัพธ์ออกมาเร็ว

วิธีการใช้งาน:
เข้าไปที่ Bing Image Creator หรือใช้ผ่าน Bing Chat พิมพ์คำอธิบายภาพที่ต้องการ

8. Canva AI – ตอบโจทย์การออกแบบกราฟิกครบวงจร

ฟีเจอร์เด่น:

• มีเทมเพลตมากมายให้เลือกใช้
• ฟังก์ชัน Magic Edit ช่วยแก้ไขภาพได้ง่าย
• สร้างและแก้ไขข้อความด้วย AI

วิธีการใช้งาน:
สมัครบัญชี Canva และเข้าใช้งานเครื่องมือ AI สร้างภาพในเมนู

9. Dream by WOMBO – ศิลปะบนมือถือ

ฟีเจอร์เด่น:

• ใช้งานง่ายบนมือถือ
• สร้างภาพศิลปะได้หลากหลายสไตล์
• รวดเร็วและมีเวอร์ชั่นฟรีให้ใช้งาน

วิธีการใช้งาน:
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Dream by WOMBO บนสมาร์ทโฟน และเริ่มสร้างภาพได้ทันที

เปรียบเทียบ AI สร้างภาพ: เลือกให้เหมาะกับความต้องการ

เคล็ดลับการใช้ AI สร้างภาพให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

1. เขียนคำอธิบายภาพที่ละเอียด – ยิ่งรายละเอียดมาก ผลลัพธ์ยิ่งตรงความต้องการ
2. ระบุสไตล์ศิลปะให้ชัดเจน – เช่น “watercolor”, “photorealistic”, “van gogh style”
3. ใช้คำศัพท์เฉพาะทาง – คำศัพท์ทางศิลปะหรือการถ่ายภาพช่วยให้ได้ภาพที่ตรงใจมากขึ้น
4. ทดลองหลายๆ ครั้ง – อย่าหยุดที่การสร้างภาพครั้งแรก ลองปรับคำอธิบายและพารามิเตอร์
5. เรียนรู้จากชุมชน – ศึกษา Prompt จากชุมชนออนไลน์เพื่อเข้าใจเทคนิคขั้นสูง

ข้อควรระวังในการใช้ AI สร้างภาพ

• ลิขสิทธิ์และการใช้งานเชิงพาณิชย์ – ตรวจสอบข้อกำหนดการใช้งานของแต่ละเครื่องมือ
• จริยธรรมในการใช้งาน – หลีกเลี่ยงการสร้างเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์
• AI ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย – ใช้เป็นเครื่องมือช่วยเหลือ ไม่ใช่ทดแทนความคิดสร้างสรรค์
• ให้เครดิตกับเทคโนโลยี – เมื่อใช้ภาพในงานสาธารณะ ควรระบุว่าสร้างด้วย AI

สรุป: ปลดล็อกศักยภาพการออกแบบด้วย AI สร้างภาพ

AI สร้างภาพกำลังเปลี่ยนโฉมวงการออกแบบ ช่วยให้นักออกแบบสามารถสร้างสรรค์ผล

• Facebook
• Twitter
• Line